Cute Blinking Blue Cat

วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2560

การบันทึกครั้งที่ 1
วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ.2560
เนื้อหาที่เรียน  ความรู้ที่ได้รับ

  • ในช่วงแรกอาจารย์ปฐมนิเทศนักศึกษาและพูดข้อตกลงในการเรียนวิชานี้
  • เริ่มเรียนเกี่ยวกับทฤฎีต่างๆ ดังนี้



เด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ
 ( Early Childhood with special needs )

ความหมายของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

1. ทางการแพทย์ มักจะเรียกเด็กที่มีความต้องการพิเศษว่า “เด็กพิการ”
หมายถึง เด็กที่มีความผิดปกติ มีความบกพร่อง สูญเสีย สมรรถภาพ อาจเป็นความผิดปกติ ความบกพร่องทางกาย การสูญเสียสมรรถภาพทางสติปัญญา ทางจิตใจ 
2. ทางการศึกษา
ให้ความหมายเด็กที่มีความต้องการพิเศษว่าหมายถึง เด็กที่มีความต้องการทางการศึกษาเฉพาะของตัวเอง ซึ่งจำเป็นต้องจัดการศึกษาให้ต่างไปจากเด็กปกติทางด้านเนื้อหา หลักสูตร กระบวนการที่ใช้ และการประเมินผล 

สรุปได้ว่าเด็กที่มีความต้องการพิเศษหมายถึง
• เด็กที่ไม่อาจพัฒนาความสามารถได้เท่าที่ควรจากการให้การช่วยเหลือ และการสอนตามปกติ
• มีสาเหตุจากสภาพความ บกพร่องทางร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์
• จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้น ช่วยเหลือ การบำบัด และฟื้นฟู
• จัดการเรียนการสอนที่เหมาะกับลักษณะและความต้องการของเด็กแต่ละบุคคล
พฤติกรรมและพัฒนาการของเด็กที่มีความต้องการพิเศษพัฒนาการ
• การเปลี่ยนแปลงในด้านการทำหน้าที่และวุฒิภาวะของอวัยวะต่างๆรวมทั้งตัวบุคคล
• ทำให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ 
• เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้ากว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน
• พัฒนาการล่าช้าอาจพบเพียงด้านใดด้านหนึ่ง หลายด้าน หรือทุกด้าน
• พัฒนาการล่าช้าในด้านหนึ่งอาจส่งผลให้พัฒนาการในด้านอื่นล่าช้าด้วยก็ได้
ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก
• ปัจจัยทางด้านชีวภาพ 
• ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมก่อนคลอด     
• ปัจจัยด้านกระบวนการคลอด      
• ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมหลังคลอด 
สาเหตุที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการ
1. พันธุกรรม
• เด็กจะมีพัฒนาการล่าช้ามาตั้งแต่เกิดหรือสังเกตได้ชั่วระยะไม่นานหลังเกิด มักมีลักษณะผิดปกติแต่
กำเนิดร่วมด้วย 
Cleft Lip / Cleft Palate













ธาลัสซีเมีย












2. โรคของระบบประสาท
• เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการส่วนใหญ่มักมีอาการหรืออาการแสดงทางระบบประสาทร่วมด้วย 
• ที่พบบ่อยคืออาการชัก 
3. การติดเชื้อ
• การติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์ น้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย ศีรษะเล็กกว่าปกติ อาจมีตับม้ามโต การได้ยินบกพร่อง ต้อกระจก
• นอกจากนี้การติดเชื้อรุนแรงภายหลังเกิด เช่น สมองอักเสบ เยื้อหุ้มสมองอักเสบ เป็นสาเหตุที่พบได้บ้าง
4. ความผิดปกติเกี่ยวกับเมตาบอลิซึม
 โรคที่ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขไทย คือ ไทรอยด์ฮอร์โมนในเลือดต่ำ
5. ภาวะแทรกซ้อนระยะแรกเกิด
• การเกิดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย และภาวะขาดออกซิเจน
6. สารเคมี







• ตะกั่วเป็นสารที่มีผลกระทบต่อเด็กและมีการศึกษามากที่สุด
• มีอากาศซึมเศร้า เคลื่อนไหวช้า ผิวดำหมองคล้ำเป็นจุดๆ
• ภาวะตับเป็นพิษ
• ระดับสติปัญญาต่ำ
แอลกอฮอล์
• น้ำหนักแรกเกิดน้อย
• มีอัตราการเพิ่มน้ำหนักหลังเกิดน้อย ศีรษะเล็ก
• พัฒนาการของสติปัญญาก็มีความบกพร่อง
• เด็กบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
Fetal alcohol syndrome, FAS









• ช่องตาสั้น  
• ร่องริมฝีปากบนเรียบ
• ริมฝีปากบนยาวและบาง  
• หนังคลุมหัวตามาก
• จมูกแบน 
• ปลายจมูกเชิดขึ้น
นิโคติน
• น้ำหนักแรกเกิดน้อย ขาดสารอาหารในระยะตั้งครรภ์
• เพิ่มอัตราการตายในวัยทารก
• สติปัญญาบกพร่อง
• สมาธิสั้น พฤติกรรมก้าวร้าว มีปัญหาด้านการเข้าสังคม
7. การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมรวมทั้งการขาดสารอาหาร
8. สาเหตุอื่นๆ เช่น อุบัติเหตุ เป็นต้น
อาการของเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
• มีพัฒนาการล่าช้าซึ่งอาจจะพบมากกว่า 1 ด้าน
• ปฏิกิริยาสะท้อน (primitive reflex) ไม่หายไปแม้จะถึงช่วงอายุที่ควรจะหายไป 
แนวทางการวินิจฉัยเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
1. การซักประวัติ
• โรคประจำตัว โรคทางพันธุกรรม
• การเจ็บป่วยในครอบครัว
• ประวัติฝากครรภ์ 
• ประวัติเกี่ยวกับการคลอด      
• พัฒนาการที่ผ่านมา     
• การเล่นตามวัย การช่วยเหลือตนเอง   
• ปัญหาพฤติกรรม   
• ประวัติอื่นๆ
เมื่อซักประวัติแล้วจะสามารถบอกได้ว่า
• ลักษณะพัฒนาการล่าช้าเป็นแบบคงที่ หรือถดถอย
• เด็กมีระดับพัฒนาการช้าหรือไม่ อย่างไร อยู่ในระดับไหน
• มีข้อบ่งชี้ว่ามีสาเหตุจากโรคทางพันธุกรรมหรือไม่
• สาเหตุของความบกพร่องทางพัฒนาการนั้นเกิดจากอะไร
• ขณะนี้เด็กได้รับการช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างไร
2. การตรวจร่างกาย
• ตรวจร่างกายทั่วๆไปและการเจริญเติบโต
• ภาวะตับม้ามโต 
• ผิวหนัง
• ระบบประสาทและวัดรอบศีรษะด้วยเสมอ
• ดูลักษณะของเด็กที่ถูกทารุณกรรม (child abuse)
• ระบบการมองเห็นและการได้ยิน
3. การสืบค้นทางห้องปฏิบัติการ
4.การประเมินพัฒนาการ
• การประเมินแบบไม่เป็นทางการ
การประเมินที่ใช้ในเวชปฏิบัติ
• แบบทดสอบ Denver II
• Gesell Drawing Test 
• แบบประเมินพัฒนาการเด็กตามคู่มือส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุแรกเกิด - 5 ปี สถาบันราชานุกูล

และกิจกรรมสุดท้ายอาจารย์ให้นักศึกษาทดสอบตนเอง โดยใช้แบบทดสอบ Gesell Drawing Test 
Gesell Drawing Test เป็นการวัดไอคิวเด็กแบบง่ายๆ ลองให้เด็กวาดรูปตามแบบที่กำหนดซึ่งเป็น
ความสามารถด้านกล้ามเนื้อมือ และการประสานงานของตากับมือตามระดับอายุที่ควรจะเป็น

Gesell Drawing Test 
ของดิฉันเอง >.<

ความรู้ที่ได้รับ
การทบทวนความรู้เดิมที่มีอยู่
- เทคนิคการใช้คำพูดเพื่อใช้สนทนากับผู้ปกครอง
- เทคนิคการทัศนะคติที่ดีต่อเด็ก
- เทคนิคการทดสอบสมองของเด็ก
- การทราบถึงความหมาย อาการและเทคนิคการจัดการเรียนการสอนแก่ที่มีความต้องการพิเศษ

การนำไปใช้
- เทคนิคการใช้คำพูดเพื่อใช้สนทนากับผู้ปกครองเพื่อสร้างความเชื่อมั่น
- วิธีการสังเกตและเทคนิคการเรียนการสอนของเด็กพิเศษในห้องเรียน
- ใช้แบบทดสอบสมองให้แก่เด็กในห้องเรียนได้
- ให้คำปรึกษาแก่พ่อแม่ผู้ปกครองได้

ประเมิน 
ตนเอง : แต่งกายเรียบร้อย มาเรียนตรงเวลาและตั้งใจเรียน
เพื่อน  : แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ตั้งใจฟังอาจารย์สอน
อาจารย์  : พูดจาสุภาพ ไพเราะ อารมณ์ขัน สนใจเด็กทุกคน แต่งกายสุภาพเรียบร้อย 
          

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น